เกาะหลีเป๊ะ สวรรค์บนดินที่คุณสัมผัสได้

เกาะหลีเป๊ะ สวรรค์บนดินที่คุณสัมผัสได้

เกาะหลีเป๊ะ เกาะที่ได้ชื่อว่าสวรรค์บนดินที่นักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นชนชาติใดก็ล้วนแล้วแต่ต้องมาเยือนเกาะที่สวยงามแห่งนี้สักครั้งในชีวิต ด้วยชื่อเสียงของหาดทรายที่ขาวละเอียดตัดกับสีน้ำเงินของน้ำทะเลที่เรียกว่าสวยงามเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยว ช่างภาพ หรือคนที่ชอบการถ่ายรูปก็ต้องหาโอกาสมาพักผ่อนบวกกับเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ ก็เกาะสวรรค์แห่งนี้อย่างแน่นอน

เกาะหลีเป๊ะนั้นเป็นเกาะกลางทะเล ที่ห่างจากชายฝั่งไปออกไปประมาณ 60 กิโลเมตร ตั้ง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา เขตจังหวัดสตูล ที่ต้องใช้การเดินทางโดยเรือสปีดโบ๊ทเพื่อมายังเกาะแห่งนี้ สำหรับการเดินทางมายังเกาะหลีเป๊ะ สามารถใช้การเดินทางโดยเครื่องบินมาลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ แล้วนั่งรถต่อมายังท่าเรือปากบารา จ.สตูล แล้วต่อเรือสปีดโบ๊ทไปอีกประมาณ 1.30 ชั่วโมงก็จะถึงเกาะสวรรค์แห่งนี้ ซึ่งการเดินทางมายังเกาะหลีเป๊ะรวมถึงรีสอร์ทและที่พักนั้น มีบริษัททัวร์ และรีสอร์ท รวมถึงทริปดำน้ำที่เรียกว่าเป็นบริการแบบครบวงจรให้นักท่องเที่ยวได้เลือกจองล่วงหน้าเพื่อไปเที่ยวชมและทำกิจกรรมบนเกาะแห่งนี้มากมาย

กิจกรรมและจุดเด่นของเกาะหลีเป๊ะ นอกจากจะเป็นความสวยงามของหาดทรายสีขาวและท้องทะเลแล้ว ไฮไลท์ของเกาะแห่งนี้ก็คือการมาดำน้ำชมปะการังใต้ทะเล และการนั่งเรือเที่ยวชมเกาะต่างๆ ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวและจุดถ่ายภาพความงามของท้องทะเลไทยที่นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาดอย่างเด็ดขาด เริ่มตั้งแต่ตอนนั่งเรือมาเรือจะแวะให้นักท่องเที่ยวชมความงามของเกาะตะรุเตา ซึ่งเพียงแค่แวะชมที่แรก รับรองว่าจะได้ฟินกับความสวยงามของน้ำทะเลกันแล้ว ต่อด้วยการเที่ยวชมเกาะต่างๆ ซึ่งเป็นวันเดย์ทริปของการมาเที่ยวชมเกาะแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเกาะหินงาม เกาะที่มีหินสวยงามมากมาย ลวดลายของหินตัดกับสีฟ้าของน้ำทะเล ที่เรียกว่าเป็นการสรรสร้างความงามจากธรรมชาติอย่างแท้จริง รวมถึงการดำน้ำชมปะการังแบบ Snorkeling หรือดำน้ำตื้น ในโซน ร่องน้ำจาบัง เกาะยาง หาดทรายขาว เกาะราวี อ่าวลิง เกาะหินซ้อน เกาะไผ่ และเกาะรอกลอย ซึ่งรับรองว่ากิจกรรมการดำน้ำจะช่วยให้คุณเพลิดเพลินและได้สัมผัสบรรยากาศใต้ท้องทะเลของเกาะหลีเป๊ะที่ทำให้คุณต้องติดใจอย่างแน่นอน   เกาะหลีเป๊ะ สวรรค์บนดินที่คุณสัมผัสได้

เกาะหลีเป๊ะนั้นเป็นเกาะที่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ธรรมชาติและรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก สำหรับคนที่เคยเดินทามายังเหาะแห่งนี้คงจะทราบว่าการเดินทางมายังเกาะนั้น เรือสปีดโบ๊ทจะจอดเทียบได้แค่ทุ่นลอยกลางทะเลเท่านั้น แล้วนักท่องเที่ยวต้องนั่งเรือหางยาวของชาวบ้านเข้ามายังเกาะ เพื่อเป็นการป้องกันปะการังน้ำตื้นที่อาจจะเสียหายได้เมื่อนำเรือใหญ่มาเทียบท่า อีกทั้งกิจกรรม Big cleaning เก็บขยะรอบเกาะและในทะเลอยู่เสมอเพื่อเป็นการอนุรักษ์ความสวยงามของเกาะแห่งนี้ให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสมาเที่ยวชมไปได้นานๆ.